ไขปริศนาลึกลับจากภาพยนตร์เรื่อง MOONFALLดวงจันทร์พุ่งชนโลกได้หรือไม่ ?
อีกหนึ่งภาพยนตร์ที่กำลังฉายอยู่ในโรงอยู่ตอนนี้เลยคือเรื่อง “Moonfall วันวิบัติ จันทร์ถล่มโลก” มันเป็นหนังภัยพิบัติที่เล่าเรื่อง ดวงจันทร์ที่กำลังจะพุ่งเข้าหาทำลายโลก เพราะถูกดาวเคราะห์น้อยพุ่งชน จนทำให้วงโคจรของดวงจันทร์เปลี่ยนไป โดยในเรื่องมีนักบินอวกาศที่ถูกส่งออกไปนอกโลกเพื่อไปช่วยมวลมนุษยชาติ และนักวิทยาศาสตร์ที่คอยหาวิธีหยุดหายนะนี้ ซึ่งพวกเขามีเวลาไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น
จากภาพยนตร์ไซ-ไฟ เรื่อง Moonfall เลยได้กระตุ้นให้เกิดคำถามว่า ในทางวิทยาศาสตร์จริง ๆ แล้วดวงจันทร์สามารถชนกับโลกได้หรือไม่? ผมจึงไปหาคำตอบและพบว่าคำตอบสั้น ๆ คือ “ได้!” ดวงจันทร์สามารถพุ่งชนโลกและทำให้เกิดหายนะร้ายแรงได้ แต่หากจะให้ตอบจริง ๆ แล้วมันค่อนข้างจะเป็นไปไม่ได้ หรือเป็นไปได้ยากมาก ๆ แล้วเพราะอะไรกัน?
ในความจริงแล้ว ดวงจันทร์และโลกอยู่ในวงโคจรที่มั่นคง "มีความสมดุลระหว่างโลกกับดวงจันทร์" Dr Tony Cook นักฟิสิกส์จาก Aberystwyth University กล่าวว่าทั้งดวงจันทร์และโลกมี “จุดสมดุลที่เรียกว่าบารีเซ็นเตอร์ (barycentre) และทั้งสองก็หมุนรอบจุดนั้น”
หากเปรียบเทียบอย่างง่าย ๆ เราอาจคิดถึงรางรถไฟสองราง โลกและดวงจันทร์เปรียบเสมือนรถไฟในราง วิ่งไปคู่กัน ถ้าไม่มีอะไรมาทำให้มันเปลี่ยนแปลง รางรถไฟคู่นั้นจะวิ่งไปด้วยกันตราบนานเท่านาน
แต่จักรวาลนั้นกว้างใหญ่ และมันก็เต็มไปด้วยพลังที่จะทำให้เกิด “อุบัติเหตุ” ได้ พลังนั้นคือ “แรงโน้มถ่วง” โลกถูกยึดไว้ด้วยแรงโน้มถ่วงของดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ก็ถูกยึดไว้ด้วยแรงโน้มถ่วงของโลก วันหนึ่งหากระบบสุริยะของเราเคลื่อนไปในอวกาศ และพบกับอะไรบางอย่างที่ใหญ่พอ ๆ ดาวพฤหัสหรือมากกว่า มันอาจเข้ามารบกวนวงโคจรของเราได้ เนื่องจากยิ่งวัตถุขนาดหนาแน่นมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งมีแรงโน้มถ่วงที่รุนแรง เหมือนกับดวงอาทิตย์ที่ดึงดูดดาวเคราะห์น้อยหรือดาวหางต่าง ๆ มันก็อาจทำให้ดวงจันทร์เปลี่ยนวงโคจรเข้าหาโลกก็เป็นไปได้ ทุกวันนี้ นักดาราศาสตร์รู้เส้นทางของวัตถุต่าง ๆ ในระบบสุริยะเป็นอย่างดี แต่อวกาศนั้นกว้างใหญ่เกินไป หนทางข้างหน้าในอนาคตจึงไม่อาจมีใครรู้
แต่สิ่งที่รู้คือ หากดวงจันทร์จะพุ่งชนโลก มันจะไม่พุ่งเข้าชนเหมือนอุกกาบาต แต่จะค่อย ๆ เปลี่ยนวงโคจรเข้าใกล้โลกเหมือนน้ำวนที่กำลังวนลงหลุม ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ปี แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ดวงจันทร์กำลังเคลื่อนห่างออกจากโลกราว 3.8 เซนติเมตรต่อปี
แต่ข่าวดีคือจากตอนนี้ไปอีกกว่าหลายพันล้านปีข้างหน้า ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล โลกจะยังคู่กับดวงจันทร์เสมอไป ยังคงเป็นสิ่งสวยงามบนท้องฟ้ากลางคืนและทำให้น้ำขึ้นลงเหมือนเดิม