![]() |
สัญญาณวิทยุ กระตุ้นการสนทนาเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า
สัญญาณวิทยุลึกลับที่กล้องโทรทรรศน์วิทยุของรัสเซียจับได้บางทีอาจจะไม่ได้มาจากอารยธรรมนอกโลก แต่กระนั้น นักดาราศาสตร์ในแคลิฟอร์เนียก็กำลังตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ตามที่สถาบันเซติระบุในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2559
นักดาราศาสตร์รัสเซียกลุ่มหนึ่งตรวจพบสัญญาณวิทยุที่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติในปี พ.ศ. 2558 โดยสัญญาณดังกล่าวมาจากตำแหน่งของระบบดาวที่อยู่ห่างจากโลก 94 ล้านปีแสง
การค้นพบของนักดาราศาสตร์กลุ่มนี้ถูกเปิดเผยออกมาหลังจากนายคลอดิโอ แม็กโคเน นักวิจัยชาวอิตาลีและประธานคณะกรรมการสถาบันดาราศาสตร์ระหว่างประเทศว่าด้วยการค้นหาสิ่งมีชีวิตทรงภูมิจากต่างดาว หรือ เซติ บอกกับเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับสัญญาณที่ว่านี้ นายเซท โชสแต็ก ผู้อำนวยการสถาบันเซติกล่าว
“ผมไม่คิดว่าเราจริงจังกับเรื่องนี้มากเกินไป” นายโชสแต็กกล่าว “นักวิทยาศาสตร์รัสเซียตรวจหาสัญญาณในทิศทางนี้ทั้งหมด 39 ครั้ง และเท่าที่รู้ก็คือพวกเขาจับสัญญาณได้หนึ่งครั้ง”
นายโชสแต็กกล่าวว่า มีโอกาสสูงที่สัญญาณวิทยุดังกล่าวจะเป็นแค่คลื่นแทรกจากภายในโลกของเราเองหรือจากดาวเทียม ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นปกติ
หากรัสเซียคิดว่าพบสัญญาณของสิ่งมีชีวิตจากนอกโลกจริง ก็น่าจะเปิดเผยเรื่องนี้ไปก่อนหน้านี้แล้ว“นักดาราศาสตร์รัสเซียพบสัญญาณที่ว่านี้มาปีกว่าแล้วแต่ก็ไม่เคยพูดอะไรเลย ถ้าเราตรวจพบสัญญาณ เราจะต้องตรวจสอบให้ละเอียดและเชิญนักดาราศาสตร์ท่านอื่น ๆ มาร่วมกันตรวจสอบด้วย” นายโชสแต็กกล่าว
อย่างไรก็ตาม ตลอดเวลาหลายคืนในช่วงเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2559 นักดาราศาสตร์ของเซติได้ใช้กล้องโทรทรรศน์วิทยุหลายตัวในแคลิฟอร์เนียเพื่อศึกษาดาวฤกษ์ต้องสงสัยที่มีชื่อว่า เอชดี 164595 ซึ่งมีดาวเคราะห์อย่างน้อยหนึ่งดวงอยู่ในวงโคจร
ดาวเคราะห์ดังกล่าวมีขนาดเท่ากับดาวเนปจูน แต่หมุนรอบดาวฤกษ์ในระยะที่ใกล้กว่าดาวพุธหมุนรอบดวงอาทิตย์มาก เป็นไปได้ว่าดาว เอชดี 164595 อาจจะมีดาวเคราะห์ดวงอื่นอยู่ในวงโคจรด้วย และอาจอยู่ในตำแหน่งที่พอเหมาะจนทำให้มีน้ำซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อสิ่งมีชีวิต
นายโชสแต็กกล่าวว่า จนถึงตอนนี้นักดาราศาสตร์ก็ยังไม่พบสัญญาณผิดปกติจากดาวดังกล่าวแต่อย่างใด“เราต้องระวังและไม่มองข้ามสัญญาณใด ๆ ไม่ว่ามันจะถูกหรือผิดก็ตาม” นายโชสแต็กกล่าว “เป็นเรื่องง่ายมากที่จะพูดว่า ‘โธ่เอ๊ย มันก็แค่คลื่นแทรกอีกตามเคย’ แต่นั่นอาจทำให้เราไม่ใส่ใจสิ่งที่ควรจะใส่ใจ”