 |
ในปี ค.ศ. 1955 เรือเดินทะเลขนาดใหญ่เป็นเรือขนสินค้าจำพวกเหล็กและวัตถุดิบไปป้อนโรงงานอุตสาหกรรม เรือลำนี้ชื่อ "ฟุไรมารุ" เป็นเรือสินค้ามาจากประเทศญี่ปุ่น ระหว่างที่ขนสินค้าจากสหรัฐอเมริกากลับประเทศนั้น เรือฟุไรมารุต้องผ่านมหาสมุทรแปซิฟิก กัปตันเรือคือ "กัปตันซารุวาตาริ เทตซึยะ" บันทึกเรื่องราวแปลกประหลาดนี้ไว้ในปูมเรือ ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องที่มีผู้คนกล่าวถึงกันมากทั่วโลกอีกเช่นกัน
ในบันทึกกล่าวไว้ว่า วันที่ 24 มิถุนายน ค.ศ. 1955 เรือฟุไรมารุออกจากเมืองดีทรอย สหรัฐอเมริกา บรรทุกเหล็กจำนวน 300 ตัน เพื่อนำไปใช้ในอุตสาหกรรมเหล็กที่นาโงย่า ระหว่างทางการเดินทางสามวันล่วงพ้นไปไม่มีอะไรผิดปกติ มีเพียงฝูงปลาโลมาที่แตกตื่นกับเรือบรรทุกขนาดใหญ่ ระวางหลายหมื่นตันที่ผ่านมาเพียงเท่านั้น ในบ่ายวันเดียวกัน ในช่วงเวลา 13.30 น. มีเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้น และจากนี้เป็นหมายเหตุที่บันทึกไว้โดยละเอียด ในปูมเดิมของเรือ กัปตันเท็ตซึยะเขียนบันทึกไว้ว่า
"เวลาราว 13.30 น. จู่ ๆ ก็เกิดลมแรง ลมที่พัดมาเหมือนพายุใหญ่ ทำให้เรือโคลง ไม่น่าเชื่อว่าท้องฟ้าจะวิปริตในระยะเวลาเพียงชั่วพริบตาเดียวท้องฟ้าก็มืดครึ้มไปหมด เมฆฝนสีเทามาจากไหนไม่มีใครรู้ เมื่อสักครึ่งชั่วโมงก่อนยังไม่มีเมฆแม้แต่ก้อนเดียว ท้องฟ้ายังเป็นสีฟ้าสว่างไสวแต่เวลานี้รายรอบตัว เห็นแต่เมฆสีเทากล่นเกลื่อนไปทั่วทุกทิศ น้ำทะเลและท้องทะเลปั่นป่วน เกิดพายุขึ้นฉับพลันและรุนแรง ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดทะเลคลุ้มคลั่งในเวลานั้นได้
ฟ้าเริ่มคำรามครางครืน ฟ้าเริ่มผ่าถี่ ๆ และผ่าลงไม่ห่างจากเรือของเรามากนัก มีบ้างที่ผ่าลงกลางทะเล เสียงดังบรึ้ม เห็นไฟสว่างวาบและน้ำทะเลเดือดเป็นไอลอยขึ้นมาทันที ชั่วครู่หนึ่งขณะที่ท้องฟ้ายังปั่นป่วนและฝนก็ตกกระหน่ำไม่ลืมหูลืมตา ทั้งท้องทะเลไหวโยน คลื่นลูกแล้วลูกเล่าวิ่งกระทบหัวเรือ หลายครั้งที่เรือเอียงวูบเพราะคลื่นลูกโต โยนเรือระวางหมื่นตันแทบคะมำ ทันใดนั้น ณ กลางทะเลไปทาง 12 นาฬิกา เราก็เห็นน้ำในทะเลหมุนวนขยายใหญ่ออกไปทุกทีจากฟุไรมารุ เรามองเห็นในระยะห่างราวหกถึงแปดกิโล
แต่วังน้ำวนก็หมุนวนและแรงขึ้นเรื่อย ๆ ฟ้าผ่าลงไปตรงกลางวังน้ำวนหลายครั้ง เห็นฟ้าแลบแปลบปลาบอยู่ในนั้น ทุกคนในฟุไรมารุก็เห็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวเกิดขึ้นพร้อมกัน สิ่งที่ว่านั้นเป็นอะไรบางอย่างที่มีขนาดใหญ่มาก มันกำลังลอยขึ้นมาจากน้ำช้า ๆ เรามองมันด้วยตาในระยะหกถึงแปดกิโลเมตร เวลานี้มันลอยขึ้นจนโผล่พ้นวงน้ำนั้น มันมีลักษณะกลมแต่แบน และมีขนาดใหญ่กว่าสนามฟุตบอล มันลอยสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนโผล่พ้นน้ำ และลอยขึ้นเหนือฟุไรมารุ ไม่นานมันก็ลอยสูงขึ้นไปในท้องฟ้าจนถึงระดับราวร้อยหรือกว่าสองร้อยเมตร แล้วมันก็ส่องแสงสว่างแปลบปลาบ น้ำวนได้หายไปแล้ว คลื่นลมที่รุนแรงก็เพลาลง จู่ ๆ ก็มีเสียงดังวูม ๆ ดังลั่นไปทั่วท้องน้ำ ทุกคนได้ยินเหมือนกันหมดเพราะเสียงมันดังมาก จนกระทั่งเสียงเงียบหาย แล้วมันก็หมุนเร็วจี๋ก่อนจะสว่างวาบ ๆ แล้วหายวับไป
ทันที่มันหายไปคลื่นลมก็สงบ ฟ้าที่ครึ้มและเต็มไปด้วยพายุฝนฟ้าคะนองก็หายวับตามไปด้วย เรื่องนี้ทำเอาหลายคนบนฟุไรมารุเกิดความกลับกันขึ้นมาเลยทีเดียว ไม่มีใครบอกได้ว่าสิ่งที่เราเห็นนั้นมันคืออะไร แต่หลายคนบนเรือยืนยันว่า ต้องเป็นมนุษย์ต่างดาวแน่ ๆ ซึ่งเราเองก็คิดอย่างนั้น เพราะไม่มีเหตุผลใดจะดีกว่านี้แล้ว ที่น่าแปลกคือ เวลาที่เมื่อสักครู่นาฬิกาบอกเวลาที่ 13.30 น. แต่มาเวลานี้นาฬิกาของทุกคนบนเรือบอกเวลา 17.30 น.
เหมือนกันหมด ไม่น่าเชื่อว่าระยะเวลาที่เราดูตั้งแต่เห็นพายุจนยานขนาดยักษ์หายไป จะกินเวลานานถึงสี่ชั่วโมงซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลย แต่นาฬิกาของทุกคนบนเรือก็ยืนยันอย่างนั้น แล้วอย่างนั้นเวลาสามเกือบสี่ชั่วโมงของทุกคนหายไปไหน เรื่องนี้ก็ยังไม่มีใครให้คำตอบได้"
เมื่อกัปตันซารุวาตาริ เทตซึยะ กลับถึงญี่ปุ่นก็ต้องเข้าให้ปากคำเนื่องด้วยนำเรือเข้าถึงฝั่งไม่ตรงตามกำหนด หลังจากนำลูกเรือและปูมเรือมาพิสูจน์ก็ไม่มีใครเชื่อ เพราะเรื่องที่ทุกคนบนฟุไรมารุเห็นนั้น มันเกินกว่าที่จะเชื่อได้ ถึงคนญี่ปุ่นจะไม่สน แต่ก็มีนักจานผีวิทยาจากต่างประเทศเดินทางมาสัมภาษณ์และบันทึกเรื่องราวของกัปตันเทตซึยะ และลูกเรือฟุไรมารุเก็บเอาไว้ จากนั้นไม่นานเรื่องของกัปตันเทตซึยะและฟุไรมารุก็โด่งดังขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อมีเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่พบปัญหาแบบเดียวกัน บันทึกปูมเรือนี้บันทึกโดย กัปตันดาเนียลา เบียงชี ชาวไอร์แลนด์ ได้ให้ปากคำไว้แบบเดียวกับกัปตันเท็ตซึยะเพียงแต่คราวนี้การเดินทางมันกลับกันเท่านั้นเอง
"ในเวลาราว 9.30 น. จู่ ๆ ก็เกิดพายุใหญ่มีลมแรง ลมที่พัดมาเหมือนพายุไซโคลน ทำเอาเรือใหญ่โคลง เสียงกระดูกงูเรือลั่นกราว มันไม่น่าเชื่อว่าท้องฟ้าจะเกิดพายุไซโคลนเข้าตอนนี้ เพราะในระยะเวลาเพียงไม่นานนักฟ้ารอบตัวก็มืดครึ้มไปหมด เมฆฝนสีชมพูออกดำน่ากลัวมาก ทั้งที่เมื่อสักครึ่งชั่วโมงก่อนยังไม่มีเมฆแม้แต่ก้อนเดียว
แต่ทว่าเวลานี้รายรอบเรือเห็นแต่เมฆดำปนชมพู่ทั่วไปทุกทิศทุกทาง แล้วจู่ ๆ น้ำทะเลและท้องทะเลก็เกิดคลื่นลมรุนแรง เพียงพริบตาเดียวเท่านั้นก็เกิดพายุไซโคลนหมุนวนเป็นงวงช้างขึ้นสู่ท้องฟ้าสามวงติด ๆ กัน ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างฉับพลันรุนแรง พายุงวดช้างที่เกิดขึ้นนั้นทำให้เกิดพายุฝนตกลงมาอย่างหนัก เกิดฟ้าร้องฟ้าคะนองไปทั่ว ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะมาเกิดทะเลคลุ้มคลั่ง ณ ช่วงเวลานี้ได้ จากนั้นฟ้าก็เริ่มผ่าถี่ ๆ ยิ่งขึ้น ๆ และเริ่มมีสายฟ้าผ่าลงมาไม่ห่างจากเรือเวฟโฮปมากนัก มีบ้างที่ผ่าลงกลางทะเห็นการระเบิดของสายฟ้ากับน้ำทะเลอย่างชัดเจนทีเดียว
กระแสไฟจากฟ้าผ่าสว่างวาบ ทำให้น้ำทะเลแตกออก พลันมีเสียงบรึม ๆ ตามมาอีกหลายครั้ง ทันใดนั้น ณ กลางทะเลค่อนไปทาง 9 นาฬิกา เราเห็นน้ำในทะเลหมุนวน และขยายวงใหญ่ออกไปเรื่อย ๆ กระแสน้ำที่หมุนวนขยายวงใหญ่ออกไป เรามองเห็นได้ในระยะห่างราว ๆ แปดถึงสิบกิโล แต่กระนั้นวังน้ำวนยังหมุนวนเรื่อย ๆ และรุนแรงขึ้น สายฟ้าสีเขียวนวลผ่าลงไปตรงกลางวังน้ำวนหลายครั้ง ทุกครั้งที่ผ่านก็เห็นแสงสว่างสีฟ้าสว่างแปลบปลาบอยู่ในนั้น
แต่แล้วทุกคนก็เห็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวเกิดขึ้น สิ่งที่ว่านั้นเราไม่รู้ว่าคืออะไร? มันเป็นอะไรบางอย่างที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารมาก มันลอยขึ้นจากน้ำช้า ๆ ในระยะแปดถึงสิบกิโลเมตร มันใหญ่กว่าเรือของเรามาก มันลอยขึ้นจนโผล่พ้นวังน้ำวนนั้น มีลักษณะเป็นแผ่นแบน ๆ ขนาดใหญ่ น่าจะใหญ่กว่าสนามฟุตบอลเสียอีก ไม่นานมันก็ลอยสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ จนหยุดในระดับหนึ่ง เวลานี้นำวนหายไปแล้ว แล้วก็มีเสียงวู้ม ๆ มันหมุนเร็วจี๋ก่อนจะสว่างวาบแล้วหายวับไปทันที ทันทีที่สิ่งบินขนาดยักษ์นั้นหายวับไป อะไรต่อมิอะไรที่กำลังปั่นป่วนจนจับต้นชนปลายไม่ถูกทั้งทะเล เมฆฝน และเสียงฟ้าคำราม ทุกอย่างล้วนอันตรธานหายไปสิ้น ไม่มีใครบอกได้ว่า สิ่งที่เราเห็นนั้นมันคืออะไร? แต่หลายคนบนเรือยืนยันว่าต้องเป็นมนุษย์ต่างดาวแน่ ๆ"
จากการวิเคราะห์ของนักจานผีวิทยาระบุว่า สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้น ทั้งพายุ ฟ้าแลบ ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ล้วนเกิดจากอากาศยานขนาดใหญ่ที่ใช้เครืองกำเนิดพลังงานที่มีเจนเนอเรเตอร์สูง การที่มีเมฆฝน ฟ้าร้อง ฟ้าคะนองเกิดขึ้นก็เพื่อกลบเกลื่อนร่องรอย และรบกวนการถ่ายภาพ การส่งภาพทางวิทยุ จานบินขนาดยักษ์ต้องใช้พลังงานมหาศาลในการเร่งเครื่องเข้าสู่ความเร็วแสง ดังแสงสว่างวาบที่เรารู้สึกได้ แล้วยานอวกาศที่มีขนาดใหญ่โตมากขนาดนี้มาทำอะไรในท้องสมุทร? มันมาทำอะไรไม่รู้ รู้แต่ว่า..
ภารกิจที่เฝ้าทำน่าจะสัมฤทธิ์ผลแล้ว...✎
°.•°•.★* *★ .•°•.°°.•°•.★* *★ .•°•.°°.•°•.★* *★ .•°•.°°.•°•
