วาติกันไม่ขวางความเชื่อ "เอเลียน" มีจริง เพราะพระเจ้าสร้างจักรวาล
เอพี/เอเยนซี - นักดาราศาสตร์แห่งสำนักวาติกันเชื่อเรื่อง "เอเลียน" ไม่ขัดแย้งกับศาสนา เพราะ "พระเจ้า" สร้างจักรวาล เหมือนกับที่นักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายทั้งมวลเชื่อว่า "บิกแบง" เป็นจุดเริ่มต้นของจักรวาล พร้อมเผยวิทย์และคริสต์ไปด้วยกันได้ ถ้านักวิทยาศาสตร์ศึกษาไบเบิลลึกซึ้งยิ่งขึ้น และนักบวชตามทันโลกวิทยาการมากขึ้น
สาธุคุณโฮเซ กาเบรียล ฟูเนส (Rev. Jose Gabriel Funes) ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนจากหนังสือพิมพ์ลอสเซอร์วาโตเร โรมาโน (L'Osservatore Romano) ของวาติกัน และลงบทสัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์ฉบับวันที่ 13 พ.ค. 2551 ซึ่งพาดหัวว่า "มนุษย์ต่างดาว พี่น้องของพวกเรา" (The extraterrestrial is my brother) โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตต่างดาว และเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกและวิทยาศาสตร์
สาธุคุณฟูเนส ผู้เป็นที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 (Pope Benedict XVI) และดำรงตำแหน่ง ผอ.หอดูดาววาติกัน (Vatican Observatory)
ซึ่งอยู่นอกกรุงโรม ประเทศอิตาลี ท่านเป็นผู้หนึ่งที่เชื่อว่าจะต้องมีมนุษย์ต่างดาวอยู่นอกพิภพอย่างแน่นอน และบางทีอาจมีวิวัฒนาการที่ก้าวไกลกว่ามนุษย์โลกด้วยซ้ำ"ฉันเชื่อว่าเป็นไปได้ที่จะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่บนดาวดวงอื่น เพราะยังมีดาวเคราะห์อีกมากมายที่เป็นหนึ่งในสมาชิกของกาแลกซีอีกจำนวนมากในจักรวาลที่พวกเขาเหล่านั้นอาศัยอยู่ได้" พระนักดาราศาสตร์วัย 45 ปีเผย
"พวกเราจะปฏิเสธการที่สิ่งมีชีวิตอาจกำลังมีวิวัฒนาการอยู่ที่ไหนสักแห่งได้อย่างไรกัน? หากพิจารณาสิ่งมีชีวิตบนโลกของเราก็ล้วนเกี่ยวข้องเป็นพี่น้องกันทั้งนั้น ทำไมพวกเราไม่พูดถึงมนุษย์ต่างดาวว่าเป็นพี่น้องของพวกเรา (extraterrestrial brothers) บ้างล่ะ? เพราะเขาก็เป็นส่วนหนึ่งของสรรพสิ่งต่างๆ" คำให้สัมภาษณ์ของนักบวชนักวิทย์
ท่านสาธุคุณยังบอกอีกว่า โลกของเรายังมีสิ่งมีชีวิตหลากชนิดได้เลย ฉะนั้นก็เป็นไปได้ที่จะมีสิ่งมีชีวิตต่างชนิดอยู่บนดาวดวงอื่น และอาจเป็นสิ่งมีชีวิตฉลาดล้ำที่ถูกรังสรรค์ขึ้นโดยพระเจ้า ซึ่งเราก็ไม่อาจยึดถือกับข้อจำกัดของความอิสระในการสร้างสรรค์ของพระเจ้าได้
เป็นไปได้อย่างไรที่นักบวชโรมันคาทอลิกผู้เคร่งในพระคริสต์ธรรมมีความเห็นเป็นไปในทางเดียวกับนักวิทยาศาสตร์ส่วนมาก ที่เชื่อกันว่ายังมีสิ่งมีชีวิตอยู่บนดาวดวงอื่นในจักรวาล เพราะตั้งแต่อดีตมาแล้วที่นักวิทยาศาสตร์มักถูกมองว่าเป็นพวกนอกรีตและถูกต่อต้านจากคริสตจักร เช่นกรณีของ กาลิเลโอ (Galileo) ที่ค้นพบตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ว่าโลกกลมและโคจรรอบดวงอาทิตย์ แต่นักบวชแห่งโรมันคาทอลิกเพิ่งยอมรับเขาเมื่อปี 2535 นี้เอง และยังมีกรณีความขัดแย้งของทฤษฎีพระเจ้าสร้าง (creationism) กับทฤษฎีวิวัฒนาการ (evolution) ที่บัดนี้ก็ยังไม่มีข้อยุติ
สาธุคุณฟูเนสกล่าวว่า การเชื่อว่ามีเอเลียนดำรงอยู่บนดาวดวงอื่นนั้นไม่ขัดกับความศรัทธาที่มีต่อพระเจ้าเลยแม้แต่น้อย เพราะพระเจ้าคือผู้สร้าง และเป็นผู้สร้างแห่งจักรวาล
ซึ่งก็เหมือนกับที่นักวิทยาศาสตร์ส่วนมากอธิบายว่าจักรวาลเริ่มต้นขึ้นจากปรากฏการณ์บิกแบงตั้งแต่เมื่อหลายพันล้านปีมาแล้ว
"ฉันเชื่อมาเสมอว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้างจักรวาล และพวกเราก็ไม่ได้เป็นแค่สิ่งของที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างเรื่อยเปื่อย ไม่มีจุดประสงค์ แต่เป็นเด็กน้อยที่มีพ่อผู้แสนดีและมีจิตใจรักเราอย่างเต็มเปี่ยม" สาธุคุณฟูเนสกล่าว และยังบอกด้วยว่า การสนทนากันระหว่างความศรัทธาและวิทยาศาสตร์สามารถปรับเข้าหากันและให้เป็นไปในทางเดียวกันได้ ถ้านักวิทยาศาสตร์ศึกษาพระคัมภีร์ไบเบิลให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ส่วนนักบวชก็ต้องก้าวตามให้ทันโลกวิทยาศาสตร์ที่หมุนไปข้างหน้า
บาทหลวงนักดาราศาสตร์แห่งวาติกันเชื่อมั่นว่าพระเจ้ามิได้สร้างสรรค์สิ่งมีชีวิตให้มีอยู่แค่เฉพาะบนโลกใบนี้เท่านั้น แต่ยังมีอีกหลากหลายชีวิตที่วิวัฒนาการอยู่บนดาวดวงอื่นๆอีกด้วยพระเจ้าที่แท้จริง
คือมนุษย์ต่างดาวนั้นเอง
หนังสือพิมพ์ LOSSERVATORE ROMANO ของวาติกันในฉบับภาษาอังกฤษ
หนังสือพิมพ์ LOSSERVATORE ROMANO ของวาติกันในฉบับภาษาอังกฤษ