Custom Search

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ดวงจันทร์กำลังถอยห่าง ทำให้เวลา 1 วันบนโลกยาวนานขึ้น

ดาวเทียม GOES-16 บันทึกภาพดวงจันทร์เหนือชั้นบรรยากาศโลกนี้ไว้ได้เมื่อปีที่แล้ว หากคิดว่าเวลา 24 ชั่วโมงในหนึ่งวันไม่เพียงพอสำหรับจัดการงานยุ่งที่กองท่วมหัว หลายคนอาจจะต้องประหลาดใจเมื่อได้ทราบว่า โลกในทุกวันนี้ใช้เวลาหมุนรอบตัวเองยาวนานขึ้นกว่าเดิมแล้วราว 5 ชั่วโมง เมื่อเทียบกับเวลา 1 วันในยุคดึกดำบรรพ์ 1,400 ล้านปีก่อนที่มีเพียง 18 ชั่วโมง 41 นาที

มีการตีพิมพ์ผลการค้นพบดังกล่าวในวารสาร PNAS โดยนักธรณีศาสตร์ชาวอเมริกันระบุว่า การที่โลกมีจำนวนชั่วโมงในหนึ่งวันยาวนานขึ้น เป็นผลจากการที่ดวงจันทร์ค่อย ๆ เคลื่อนห่างออกไปจากโลกปีละ 3.82 เซนติเมตร ทำให้โลกหมุนช้าลงและมีช่วงเวลา 1 วันยาวนานขึ้น

โดยเฉลี่ย 1/75,000 วินาทีต่อปี
ศ.สตีเฟน เมเยอร์ส จากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-เมดิสัน และศ.อัลเบอร์โต มาลินเวอร์โน จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียของสหรัฐฯ
ใช้ข้อมูลจากการวิเคราะห์ตะกอนดินใต้ทะเลจากแหล่งเซี่ยหม่าหลิงในจีนที่เก่าแก่กว่าพันล้านปี รวมทั้งจากชั้นหินในสันเขาใต้มหาสมุทรแอตแลนติก เพื่อมองหาสัดส่วนของทองแดงและอะลูมิเนียมที่บ่งบอกถึงวงจรการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกในรอบกว่าพันล้านปีที่ผ่านมา

ความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศดังกล่าวซึ่งเกิดจากการที่โลกได้รับแสงอาทิตย์ในลักษณะที่ต่างออกไปนั้น เชื่อมโยงกับวงจรทางดาราศาสตร์ที่เรียกกันว่า "วงจรมิลันโควิตช์"
(Milankovitch cycle) ซึ่งชี้ว่าดวงดาวต่าง ๆ ในระบบสุริยะมีแรงดึงดูดระหว่างกัน ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่อระยะห่างและวิถีการโคจรของกันและกัน

ซึ่งความเปลี่ยนแปลงนี้จะเกิดขึ้นแบบหมุนเวียนไปเป็นรอบในช่วงเวลาที่ยาวนานหลายแสนหรือหลายล้านปี "การที่ดวงจันทร์เคลื่อนห่างออกจากโลกตามอิทธิพลของวงจรมิลันโควิตช์ ส่งผลให้โลกหมุนช้าลง คล้ายกับนักสเก็ตลีลาที่กำลังหมุนตัวเหยียดแขนทั้งสองข้างออก" ศ.เมเยอร์สกล่าว
คาดว่าปรากฏการณ์ที่ดวงจันทร์ถอยห่างจากโลกนี้ เริ่มมาตั้งแต่ก่อนยุคแคมเบรียน ซึ่งเป็นยุคที่เริ่มเกิดสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิดขึ้นในโลก
เมื่อ 1,400 ล้านปีก่อน และจะเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกหลายร้อยหรือหลายพันล้านปีในอนาคต

อย่างไรก็ตาม มนุษย์ไม่ต้องกลัวว่าดวงจันทร์จะถอยห่างจากโลกไปเรื่อย ๆ
จนหลุดลอยไปในที่สุด เพราะวงจรการเคลื่อนที่ของดวงจันทร์จะกลับมาที่จุดซึ่งมีความเสถียรในอีกหลายล้านปีข้างหน้า โดยเมื่อถึงเวลาดังกล่าวผู้คนจะมองเห็นดวงจันทร์ได้จากพื้นที่ในซีกโลกหนึ่งเท่านั้น

รายการบล็อกของฉัน