ซิลิกาแอโรเจลเป็นวัสดุโปร่งแสง มีอากาศเป็นส่วนประกอบถึง 99.8% และเป็นของแข็งที่เบาที่สุดในโลก
มนุษย์กำลังวางแผนไปตั้งอาณานิคมบนดาวอังคารให้ได้ภายในไม่กี่ทศวรรษข้างหน้านี้ แต่ปัญหาใหญ่นอกจากเรื่องการเดินทางแล้ว ยังมีเรื่องของสภาพแวดล้อมบนดาวอังคารที่แห้งแล้งและหนาวเหน็บสุดขั้ว ไม่เหมาะสมให้สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ทำให้นักวิทยาศาสตร์พยายามคิดค้นหาวิธีการ Terraforming ซึ่งก็คือการสร้างและปรับเปลี่ยนสภาพบรรยากาศของดาวอังคารมาโดยตลอด
ล่าสุดทีมนักวิทยาศาสตร์ขององค์การนาซาได้เสนอวิธีการใหม่ ซึ่งจะทำให้พื้นที่เฉพาะจุดบนดาวอังคารอบอุ่นขึ้น จนน้ำสามารถคงสภาพของเหลวบนพื้นผิวดาวได้ โดยจะใช้แผ่นวัสดุ "ซิลิกาแอโรเจล" (Silica Aerogel) คลุมบริเวณเล็ก ๆ ที่จะเป็นแหล่งบุกเบิกตั้งอาณานิคมของมนุษย์ในเบื้องต้นก่อน
รายงานวิจัยดังกล่าวตีพิมพ์ในวารสาร Nature Astronomy โดยระบุว่าซิลิกาแอโรเจลเป็นวัสดุโปร่งแสง มีอากาศเป็นส่วนประกอบถึง 99.8% มีความหนาแน่นกว่าอากาศทั่วไปเพียง 2 เท่า และเป็นของแข็งที่เบาที่สุดในโลก เวลาจับให้ความรู้สึกเหมือนสัมผัสโฟมพลาสติกหรือสไตโรโฟม
เมื่อคลุมพื้นที่หนึ่งของดาวอังคารด้วยแผ่นซิลิกาแอโรเจล มันจะสร้าง "ภาวะเรือนกระจกของแข็ง" (Solid-State Greenhouse Effect) ขึ้นมาในบริเวณดังกล่าว โดยวัสดุโปร่งแสงจะกักเก็บความร้อนจากแสงอาทิตย์ไว้ภายในและถ่ายทอดสู่ด้านล่าง ทำให้พื้นที่นั้นอบอุ่นขึ้น ผิวของแผ่นแอโรเจลซึ่งมีเส้นใยซิลิกายังสะท้อนรังสีอัลตราไวโอเลตที่อันตรายออกไปได้อีกด้วย
ทีมนักวิทยาศาสตร์ขององค์การนาซาบอกว่า ต้องใช้แผ่นซิลิกาแอโรเจลที่หนาราว 2-3 เซนติเมตร เพื่อเพิ่มอุณหภูมิในพื้นที่อาณานิคมบนดาวอังคารขึ้นอีก 50 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นระดับที่ร้อนเพียงพอจะทำไห้น้ำคงสภาพเป็นของเหลวบนพื้นผิวดาวและใช้ดื่มกินได้
ภาพจำลองยาน Mars 2020 Rover กำลังสำรวจพื้นผิวดาวอังคารซึ่งแห้งแล้งยิ่งกว่าจุดที่แห้งที่สุดบนโลกถึงพันเท่า
ทั้งนี้ ดาวอังคารเป็นดาวเคราะห์ที่มีสภาพเหมาะสมต่อการอยู่อาศัยมากที่สุดในระบบสุริยะรองจากโลก แต่สภาพบรรยากาศที่เป็นอยู่ก็ยังคงไม่เอื้ออำนวยต่อสิ่งมีชีวิตหลายประเภท
ก่อนหน้านี้มีผู้เสนอให้ดึงคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกกักเก็บไว้ในชั้นน้ำแข็งและใต้พื้นผิวดาวอังคารขึ้นมา เพื่อทำให้เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจกแบบเดียวกับที่โลกเป็นอยู่ในขณะนี้
ซึ่งจะทำให้ดาวอังคารมีอุณหภูมิสูงขึ้น แต่ภายหลังผลวิจัยของนาซากลับพบว่า ดาวอังคารมีปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เพียงพอที่จะใช้เปลี่ยนแปลงสภาพบรรยากาศของมันเอง ยิ่งไปกว่านั้น เทคโนโลยีของมนุษย์ในปัจจุบันก็ยังไม่สามารถจะทำเรื่องดังกล่าวได้
ซึ่งจะทำให้ดาวอังคารมีอุณหภูมิสูงขึ้น แต่ภายหลังผลวิจัยของนาซากลับพบว่า ดาวอังคารมีปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เพียงพอที่จะใช้เปลี่ยนแปลงสภาพบรรยากาศของมันเอง ยิ่งไปกว่านั้น เทคโนโลยีของมนุษย์ในปัจจุบันก็ยังไม่สามารถจะทำเรื่องดังกล่าวได้
