(ภาพจากฝีมือศิลปิน) อุกกาบาตที่มีเพชรชนิดพิเศษปะปนอยู่ อาจมาจากดาวเคราะห์ในระบบสุริยะที่สลายตัวไปแล้วเมื่อหลายพันล้านปีก่อน
เพชรชนิดที่มีองค์ประกอบพิเศษ ซึ่งพบในชิ้นส่วนหินอุกกาบาต Almahata Sitta อาจเป็นแร่ธาตุส่วนที่ยังหลงเหลืออยู่จาก "ดาวเคราะห์โบราณ" ที่สลายตัวไปแล้วเมื่อหลายพันล้านปีก่อน โดยในอดีตดาวเคราะห์นี้เป็นบริวารของดวงอาทิตย์ในช่วงที่ระบบสุริยะเพิ่งถือกำเนิดขึ้น
ทีมนักดาราศาสตร์จากสถาบันเทคโนโลยีกลางสวิส (EPFL) ของสวิตเซอร์แลนด์ ตีพิมพ์เผยแพร่ผลการค้นพบดังกล่าวในวารสาร Nature Communications โดยระบุว่าเพชรในหินอุกกาบาตนี้มีขนาดใหญ่กว่าผลึกของเพชรที่พบในหินอวกาศทั่วไปหลายเท่า ทั้งยังมีองค์ประกอบที่แตกต่างออกไป ซึ่งเพชรลักษณะดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ในภาวะที่มีแรงดันมหาศาล ภายใต้พื้นผิวดาวเคราะห์ที่มีขนาดใหญ่ประมาณดาวพุธไปจนถึงขนาดเท่าดาวอังคารเท่านั้น
จากการตรวจสอบพบว่าอุกกาบาตนี้เป็นแร่ Ureilite ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่ไม่พบในหินอวกาศที่มาจากดาวเคราะห์ในระบบสุริยะปัจจุบันเช่นดวงจันทร์หรือดาวอังคาร ส่วนเพชรที่พบปะปนอยู่ด้วยนั้นมีจุดของสารประกอบเหล็ก-กำมะถันอยู่ แสดงว่าเพชรนี้ก่อตัวภายใต้ความดันสูงกว่า 20 กิกะปาสคาล ซึ่งเป็นระดับความดันที่มีอยู่ในส่วนลึกลงไปใต้พื้นผิวดาวเคราะห์ขนาดกลาง
ชิ้นส่วนหนึ่งของอุกกาบาต Almahata Sitta (ก้อนสีดำทางขวา) ที่พบในทะเลทรายของซูดานเมื่อปี 2008
เพชรในหินอุกกาบาตดังกล่าวถือเป็นหลักฐานชิ้นแรกที่ช่วยยืนยันทฤษฎีการก่อกำเนิดระบบสุริยะที่มีมานานก่อนหน้านี้ โดยทฤษฎีดังกล่าวสันนิษฐานว่า ในช่วง 10 ล้านปีแรกหลังระบบสุริยะถือกำเนิดขึ้น ดวงอาทิตย์มีดาวเคราะห์บริวารชุดเริ่มแรกหลายสิบดวง
แต่ต่อมาดาวเคราะห์เหล่านี้เกิดชนกันและสลายตัว จนกลายเป็นมวลสารที่ให้กำเนิดดาวบริวารชุดใหม่ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงโลกของเราด้วย