เมื่อประมาณ 400,000 ปีหลังจากการเริ่มต้นของจักรวาลหรือหลังจากการระเบิดครั้งใหญ่ที่เรียกว่าเหตุการณ์บิ๊ก แบง (Big Bang) จักรวาลในเวลานั้นมีแต่ความมืด ไม่มีดาราจักรหรือกาแล็กซีใดๆ อีกทั้งยังเต็มไปด้วยก๊าซไฮโดรเจนที่เป็นกลางทางไฟฟ้า กระทั่งในอีก 50–100 ล้านปีต่อมาแรงโน้มถ่วงก็ค่อยๆดึงส่วนที่หนาแน่นที่สุดของก๊าซเข้าไว้ด้วยกัน จนท้ายที่สุดก๊าซบางแห่งมีการยุบตัวลงเพื่อก่อเกิดดาวฤกษ์ดวงแรกของจักรวาล
ในสหรัฐอเมริกา เผยว่าหลังจากใช้เครื่องสเปกโตรมิเตอร์วิทยุซึ่งติดตั้งไว้ที่หอดูดาวดาราศาสตร์วิทยุเมอร์ชิสัน ในประเทศออสเตรเลีย ก็ตรวจพบหลักฐานที่เชื่อได้ว่าจะพบดาวฤกษ์กลุ่มแรกที่ก่อตัวขึ้นในจักรวาลเมื่อ 13,800 ล้านปีก่อน โดยเมื่อเทียบจากเหตุการณ์บิ๊ก แบง นั่นหมายถึงว่าดาวฤกษ์ดวงแรกกำเนิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวราว 180 ล้านปี
นักจักรวาลวิทยาอธิบายว่า ก๊าซไฮโดรเจนเป็นองค์ประกอบที่พบบ่อยที่สุดในจักรวาล ทว่ารังสีอัลตราไวโอเลตทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติก๊าซ เลยทำให้ก๊าซไฮโดรเจนสามารถดูดซับคลื่นวิทยุจากพื้นหลังของเหตุการณ์บิ๊ก แบง จนเครื่องสเปกโตรมิเตอร์วิทยุตรวจจับได้ ซึ่งพบว่าก๊าซดังกล่าวเป็นไฮโดรเจนและฮีเลียมเกือบทั้งหมด คาดว่าดาวฤกษ์ดวงแรกจะมีขนาดใหญ่มากแต่อายุสั้นและน่าจะมีสีฟ้า
อย่างไรก็ตาม ก็ยังไม่อาจชี้ชัดว่าดาวฤกษ์ดวงแรกเกิดขึ้นเมื่อใด ตอนนี้รู้เพียงว่าเกิดขึ้นช่วงราว 180 ล้านปีหลังจากเหตุการณ์บิ๊ก แบง แต่สิ่งสำคัญคือการค้นพบนี้อาจนำไปช่วยไขปริศนาปฏิกิริยาระหว่างก๊าซและสสารมืด (Dark matter) อันเป็นความลับหนึ่งในจักรวาล เรารู้ว่ามีแต่มองไม่เห็นเพราะพลังงานมืดดังกล่าวไม่เปล่งแสงหรือพลังงาน.