เรื่องการค้นพบ "เอเลี่ยนสาว" กับ "ยานอวกาศใหญ่ยักษ์" บนดวงจันทร์นี่เท็จจริงเป็นยังไงใครพอจะทราบบ้าง?
EBE โมนาลิซ่า ที่ดวงจันทร์ หลักฐานการพบยานอวกาศ “มนุษย์ต่างดาว” บนดวงจันทร์
ข่าวสำคัญที่อยากจะบอก เกี่ยวกับยานลำนี้ ซึ่งอยู่บนดวงจันทร์มาแล้วหลายปี ตัวยานมีความยาวสองไมล์ ความสูงมากกว่าหอไอเฟล (Eiffel Tower) ข้างในมีโหลแก้วบรรจุตัวอ่อนมนุษย์ต่างดาว ขนาด 10 เซนติเมตร จำนวนมาก แต่ถูกทำลายไปไม่เป็นตัว ที่ชัดเจน คือ ตัวยานเก่ามากแล้ว มีอักขระบนกระดาษ เป็นอักษรหางยาว ๆ มีศพผู้หญิงคล้ายคนจีน ที่สวยจนเรียกว่า “โมนาลิซ่า” (Mona Lisa) ไม่เน่าเบื่อย เมื่อนำศพกลับขึ้นยานลูก ก็เอาแท่งที่ตรึงหน้าศพออก และนี่เป็นภารกิจร่วมของนักบินอวกาศอเมริกัน และ รัสเซีย เป็นภารกิจเพื่อการสำรวจในยานนี้โดยเฉพาะ ป่านนี้คงวิเคราะห์ ดีเอ็นเอ – DNA หญิงคนนี้ได้แล้ว
รัฐบาลนั้นยังปิดบังโกหกต่อสาธารณชนอย่างมากในเรื่องพวกนี้ เช่น ความจริงที่ว่าบนดวงจันทร์มีต้นไม้ และพืชเติบโตที่นั่น สามารถเปลี่ยนสีได้ตามฤดูกาล และมีก้อนเมฆด้วย ซึ่งเป็นด้านมืดของดวงจันทร์ และสามารถเดินได้บนดวงจันทร์โดยมีแรงโน้มถ่วงเช่นเดียวกับโลก
อังเดร ฟิงเกลสทีน (Andrei Finkelstein) นักดาราศาสตร์ชื่อดัง ซึ่งทำงานให้กับรัฐบาลรัสเซีย ได้ออกมายืนยันด้วยตัวเอง เมื่อ 27 มิถุนายน 2553 ว่า ในจักรวาลยังมีสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ อยู่ พร้อมระบุว่า มนุษยชาติจะได้เผชิญหน้ากับผู้มาเยือนจากนอกโลกอย่างแน่นอน ภายในระยะเวลา 20 ปีนับจากนี้…
ข้อมูลจากนักดาราศาสตร์ชั้นนำของรัสเซียระบุว่า มนุษยชาติจะได้เผชิญหน้ากับมนุษย์ต่างดาวอย่างแน่นอนภายในปี ค.ศ. 2031 หรืออีก 20 ปีนับจากนี้ โดย อังเดร ฟิงเกลสทีน เปิดเผยเรื่องดังกล่าวระหว่างที่เขาเดินทางไปกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดการประชุมนานาชาติว่าด้วยเรื่อง “การค้นหาสิ่งมีชีวิตนอกโลก” โดยเขาได้ย้ำกับที่ประชุมว่า “นอกจากโลกของเราแล้ว ในจักรวาลยังมีดาวอีกหลายดวงที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะสมกับการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิต และมีความเป็นไปได้อย่างมากที่มนุษย์ต่างดาวจะมีรูปร่างคล้ายคลึงกับมนุษย์ คือ มี 2 แขน, 2 ขา และ 1 ศีรษะ”
การเปิดเผยล่าสุดของนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังของรัสเซียรายนี้ เป็นการตอกย้ำกระแสความเชื่อเรื่องสิ่งมีชีวิตนอกโลกให้ชัดเจนยิ่งขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ วารสารทางวิชาการ “The Journal of Cosmology” ได้ตีพิมพ์บทความที่อ้างว่า มีการค้นพบซากไมโครฟอสซิลของสิ่งมีชีวิตนอกโลกปะปนมากับอุกกาบาตที่ตกลงสู่พื้นโลกมาแล้วเช่นกัน
เชื่อกันว่าเป็นเรื่องจริงที่ถูกค้นพบในโครงการอพอลโล่ ในองค์กร NASA ของสหรัฐอเมริกา แต่ถูกปิดข่าวมาโดยตลอด ด้วยความร่วมมือจากสหภาพโซเวียสด้วย ส่วนจะจริงเท็จยังไงนั้นคงยากที่จะพิสูจน์ยืนยันอย่างแจ้งชัด แต่ถ้าเป็นความจริงก็ต้องบอกว่า เรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นหลักฐานสำคัญในการค้นพบสิ่งที่เรียกกันว่า EBE (Extraterrestrial Biological Entities) อย่างชัดแจ้งที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งจะเป็นการยืนยันการมีอยู่จริงของสิ่งมีชีวิตต่างดาว ที่มีภูมิปัญญา ไม่ใช่มีเพียงลำพังพวกเราชาวมนุษย์โลกในระบบสุริยะจักรวาลนี้เท่านั้น
เรื่องของ EBE นี้ถือได้ว่าเป็นเรื่องสำคัญประการหนึ่งในแวดวง UFO โดยอาจแปลได้ว่าเป็น สิ่งมีชีวิตทางชีววิทยาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีภูมิปัญญาสูง ดังนั้นการค้นพบหลักฐานของ EBE จึงถือได้ว่าเป็นเรื่องสำคัญไม่น้อยสำหรับผู้ที่ให้ความสนใจในเรื่องเกี่ยวกับ UFO ดังกล่าว โดยเหตุการณ์การค้นพบ EBE ครั้งแรกนี้ เกิดขึ้นในราวๆ ยุค 70 ซึ่งเป็นช่วงที่ NASA ยังดำเนินภารกิจในโครงการอะพอลโล่อยู่ โดยจะอยู่ประมาณอพอลโล่ 15-20 ซึ่งได้มีการเก็บเรื่องเงียบไว้ กระทั่งถูกนำมาเปิดเผยอีกครั้ง เมื่อราวๆ เดือนสิงหาคม นี้เอง
จากการสำรวจครั้งนั้นพบ ยานอวกาศขนาดยักษ์จอดอยู่ในหลุมเครเตอร์ ลักษณะเป็นทรงซิการ์ ส่วนขนาดนั้นเรียกได้ว่ามหึมาเลยทีเดียว มีการประมาณการกันว่าความสูงของเจ้ายานนี้วัดจากใต้ท้องเรือถึงส่วนบนนั้นมี ความยาวประมาณ 500 เมตรนั้น และยาวกว่า 3,300 เมตร หรือ 3 กิโลกว่าๆ !! เลยทีเดียว โดยจากภายนอกนั้นสามารถมองเห็นสะพานเรือ หรือห้องบังคับการที่อยู่ด้านบนได้อย่างชัดเจนเลยหรือลองดูจากรูปก็ได้ครับ
น่าสนใจดีทีเดียว หลังจากการประมาณอายุของมันแล้ว นับได้กว่า 1.5 ล้านปีแน่ะครับ อะไรจะเก่าแก่ขนาดนั้น
ภาพถ่ายจากอพอลโล 15 ที่มีการค้นพบยานอวกาศ
ภาพจากอพอลโล 16 จะเห็นรายละเอียดชัดเจนขึ้นมานิดนึง
ล่าสุดจากอพอลโล 20 จะเห็นรายละเอียดชัดเจนทีเดียวขนาดของมันสูงกว่าครึ่งกิโลเมตร และอาจจะยาวกว่า 3.37 กิโลเมตรก็ได้ เห็นเป็นวัตถุที่ มีรายละเอียดมีความสมดุล และมีการออกแบบ แตกต่างจากสิ่งแวดล้อมและพื้นผิวที่อยู่รอบตัวมากทีเดียว