หน้าเว็บ

วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

พบ “ควอซาร์” สว่างสุดในจักรวาล สว่างกว่าดวงอาทิตย์ 500 ล้านล้านเท่า

พบ “ควอซาร์” สว่างสุดในจักรวาล สว่างกว่าดวงอาทิตย์ 500 ล้านล้านเท่า


พบ “ควอซาร์” สว่างสุดในจักรวาล สว่างกว่าดวงอาทิตย์ 500 ล้านล้านเท่า

นักวิทยาศาสตร์รายงานการค้นพบ “ควอซาร์” ที่สว่างที่สุดเท่าที่เคยพบมา โดยสว่างกว่าดวงอาทิตย์ของเราถึง 500 ล้านล้านเท่า

หากถามว่า วัตถุที่มีความสว่างมากที่สุดในอวกาศคืออะไร เชื่อว่า ณ ปัจจุบันคำตอบต้องเป็น “ควอซาร์” (Quasar) หลุมดำมวลยิ่งยวด ณ ใจกลางกาแล็กซียุคแรก เป็นวัตถุพลังงานสูงที่สร้างแสงสว่างเจิดจ้าคล้ายดาวฤกษ์ แต่ไม่ใช่ และปลดปล่อยคลื่นวิทยุออกมา


ล่าสุด นักวิจัยรายงานพบควอซาร์ที่สว่างที่สุดในจักรวาลเท่าที่เคยค้นพบ โดยสว่างกว่าดวงอาทิตย์ของเราถึง 500 ล้านล้านเท่า

ครั้งแรก! ตรวจพบ “โมเลกุลน้ำ” บนพื้นผิวของดาวเคราะห์น้อย

นักวิทย์พบควอซาร์ที่สว่างสุดในเอกภพ สว่างกว่าดวงอาทิตย์ 500 ล้านล้านเท่าESO/M. Kornmesser/EPA
ภาพจำลองควอซาร์ที่สว่างที่สุดเท่าที่เคยค้นพบ
ทีมนักวิทยาศาสตร์ค้นพบควาซาร์ดวงหนึ่งที่ขับเคลื่อนโดยหลุมดำที่เติบโตเร็วที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมา ทำให้มวลของมันอยู่ที่ประมาณ 1.7 หมื่นล้านเท่าของดวงอาทิตย์ และในแต่ละวัน มันจะกลืนกินพลังงานเทียบเท่ากับดวงอาทิตย์หนึ่งดวง


แสงจากควอซาร์ดวงนี้ใช้เวลาเดินทางนานกว่า 1.2 หมื่นล้านปีจึงจะมาถึงโลก

การค้นพบนี้เป็นผลงานของนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย ร่วมกับหอดูดาวยุโรปใต้ (ESO), มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น และมหาวิทยาลัยซอร์บอนน์ของฝรั่งเศส

พวกเขาค้นพบควอซาร์นี้เป็นครั้งแรกโดยใช้กล้องโทรทรรศน์หอดูดาวไซดิงสปริง (Siding Spring) ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ จากนั้น พวกเขายืนยันการค้นพบอีกครั้งโดยใช้กล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่ของ ESO

รศ.คริสเตียน วูล์ฟ จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย หนึ่งในทีมวิจัย กล่าวว่า มันเป็นวัตถุที่ส่องสว่างที่สุดในจักรวาล และอัตราการเติบโตอันเหลือเชื่อของมันหมายถึง “การปล่อยแสงและความร้อนออกมามหาศาล”

แสงถูกปล่อยออกมาจาก “จานสะสมมวลสาร” (Accretion Disc) ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางกว้างถึง 7 ปีแสง ซึ่งเป็นที่ที่สสารถูกดึงเข้าไปและหมุนวนรอบหลุมดำ ก่อนที่มันจะข้ามขอบฟ้าเหตุการณ์ (Event Horizon) และถูกดูดเข้าไปในหลุมดำ

เมื่อสสารหรือวัตถุนั้นชนเข้ากับสสารอื่น มันจะสร้างแสงและความร้อนจำนวนมหาศาลออกมา

“มันดูเหมือนพายุขนาดมหึมาและเป็นแม่เหล็ก อุณหภูมิสูงถึง 10,000 องศาเซลเซียส มีฟ้าผ่าทุกที่ และมีลมพัดเร็วมากเหมือนกับสามารถโคจรรอบโลกได้ในไม่กี่วินาที” วูล์ฟกล่าว


เขาเสริมว่า “พายุนี้มีความกว้าง 7 ปีแสง ซึ่งมากกว่าระยะทางจากระบบสุริยะของเราไปถึงดาวดวงถัดไปในกาแล็กซีอัลฟาเซ็นทอรีถึง 50%”

ดร.คริสโตเฟอร์ ออนเคน หนึ่งในทีมวิจัย กล่าวว่า เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่ไม่มีใครตรวจพบมันมานานขนาดนี้ ทั้งที่มันซ่อนตัวอยู่ในที่โล่งแจ้งมาโดยตลอด