หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2563

Inga Stone ปฏิทินดวงดาวโบราณอายุหลายพันปี ปริศนาสุดลึกลับที่ใครกันคือผู้สร้าง

Inga Stone ปฏิทินดวงดาวโบราณอายุหลายพันปี ปริศนาสุดลึกลับที่ใครกันคือผู้สร้าง!?
ค้นหา
Custom Search
อีกหนึ่งเรื่องราวสุดลึกลับที่ไม่สามารถหาที่มาที่ไปได้ กับสัญลักษณ์ต่างๆ บนแนวหินโบราณที่มีอายุหลายพันปี หรือนี่จะเป็นอีกหนึ่งผลงานของผู้ทรงภูมิปัญญาจากนอกโลก ที่ทิ้งเอาไว้เป็นหลักฐานในการเดินทางมาเยือนโลกมนุษย์ ก็ไม่มีใครรู้ได้!

‘Inga Stone’ คือชื่อของอนุสรณ์สถานหินโบราณ ตั้งอยู่ที่เมือง Inga รัฐ Paraíba ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศบราซิล อนุสรณ์สถานหินโบราณแห่งนี้ มีอายุมากกว่า 6,000 ปี และที่น่าประหลาดใจก็คือ บนหินขนาดใหญ่ที่ทอดยาวออกไปดูคล้ายกำแพงครอบคลุมพื้นที่กว่า 250 ตารางเมตร มีความยาว 46 เมตร และสูง 3.8 เมตรนั้น ปรากฎภาพสลักลึกลับเป็นสัญลักษณ์ต่างๆ มากกว่า 400 ภาพ ทุกภาพล้วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มดาวในระบบสุริยะ และยังมีสัญลักษณ์อีกมากที่ไม่มีใครสามารถเข้าใจได้

Gabriele D’Annunzio Baraldi นักโบราณคดีชาวอิตาลีผู้ทำการศึกษา Inga Stone มานานหลายปี ได้อธิบายเอาไว้ว่า สัญลักษณ์ต่างๆ บนหินเขียนขึ้นด้วยภาษาที่มีความคล้ายคลึงกับภาษาของชาวฮิตไทต์ (Hittites) กลุ่มชนโบราณที่เคยอาศัยอยู่ทางตอนเหนือของประเทศตุรกีเมื่อประมาณ 2,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช
และเมื่อปี ค.ศ. 1976 วิศวกรชาวสเปน นามว่า Francisco Pavia Alemany ได้ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับความหมายเชิงสัญลักษณ์ต่างๆ ในอนุสรณ์สถานหินโบราณแห่งนี้ และพบว่าสัญลักษณ์เหล่านี้คือปฏิทินดวงดาวของคนในยุคโบราณ มีสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าเป็นกลุ่มดวงดาวในระบบสุริยะมากมาย..

ทั้งดาวอังคาร กลุ่มดาวนายพราน กาแล็กซี่และทางช้างเผือก ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่น่าทึ่งมาก เพราะคนเมื่อหลายพันปีก่อนไม่น่าจะมีเทคโนโลยีใดมาช่วยในการทำความเข้าใจดวงดาวในระบบสุริยะ แต่ถึงอย่างไรก็มิอาจทราบได้แน่ชัดว่าชนพื้นเมืองกลุ่มใดคือผู้สร้างสัญลักษณ์สุดอัศจรรย์เหล่านี้ และผลงานการวิจัยชิ้นนี้ถูกตีพิมพ์ เมื่อปี ค.ศ. 1986 ในนิตยสารของสถาบันวิจัย Instituto de Arqueología Brasileira แห่งประเทศบราซิลอีกด้วย


นักโบราณคดีและผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายต่างยกย่องว่า อนุสรณ์สถานหินโบราณ Inga Stone มีความโดดเด่นและแปลกไม่เหมือนที่อื่นใดในโลก อย่างไรก็ตามก็ยังไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ว่า ใครคือผู้สร้าง!? และใช้เทคโนโลยีใดในการเรียนรู้กลุ่มดวงดาวในระบบสุริยะได้แม่นยำขนาดนี้ หรือมนุษย์ในยุคนั้นจะได้รับความช่วยเหลือจากผู้ที่มาจาก ‘นอกโลก’ ก็เป็นได้