![]() |
หากโลกหยุดหมุน จะเกิดอะไรขึ้น? ทฤษฎีสุดประหลาดแต่ก็มีความเป็นไปได้!
ในจักรวาล ดาวเคราะห์ทุกดวง ไม่ว่าจะมีอุณหภูมิร้อนหรือเย็นสักแค่ไหน ย่อมต้องมีแกนหลักในการขับเคลื่อนตัวของมันอยู่เสมอ ดังเช่นโลกของเรา ที่หมุนเคลื่อนตัววนไปอยู่ตลอดเวลา กลายเป็นปรากฏการณ์กลางวันกลางคืนอย่างที่เราเห็นมาตั้งแต่เกิด ทั้งนี้ เมื่อแกนโลกได้อยู่ในเส้นทางวงโคจรของมันอยู่แล้ว มันก็จะหมุนรอบตัวเองไปเรื่อยๆไม่มีวันจบสิ้น นอกเสียจากพลังงานของมวลโลกจะค่อยๆหมดไปและสูญสลายไปเอง แต่ทว่า! ทั้งนี้ ถ้าหากเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่น่าเชื่อขึ้นมาแล้วล่ะก็ โลกเราจะเป็นอย่างไร อย่างเช่น ถ้าวันใดวันหนึ่งแกนโลกของเราหยุดหมุนกะทันหันขึ้นมา โลกของเราจะเป็นอย่างไร วันนี้เราลองไปดูทฤษฎีที่นักวิทยาศาสตร์ได้ให้การสันนิษฐานกันครับ
1.เกิดดินแดนสองขั้วซึ่งจะกลายเป็นนรกสองแบบ
หากเมื่อใดที่แกนโลกหยุดหมุนกะทันหันขึ้นมา ทุกอย่างจะเข้าสู่สภาวะอุณหภูมิสูงเกินกว่าปกติอย่างมหาศาล ซีกโลกที่หันหน้าเข้าหาฝั่งดวงอาทิตย์จะร้อนมากขึ้นเป็นพันเท่าจนน้ำแห้งเหือดหมด ทุกอย่างจะแผดเผาและตายลงอย่างรวดเร็ว ส่วนอีกซีกโลกก็จะเกิดเป็นขั้วหนาวติดลบเป็นพันๆเช่นกัน จนไม่มีสิ่งใดอาศัยอยู่ได้ โลกเราจะเปรียบเสมือนกึ่งเป็นกึ่งตายในทันที
หากเมื่อใดที่แกนโลกหยุดหมุนกะทันหันขึ้นมา ทุกอย่างจะเข้าสู่สภาวะอุณหภูมิสูงเกินกว่าปกติอย่างมหาศาล ซีกโลกที่หันหน้าเข้าหาฝั่งดวงอาทิตย์จะร้อนมากขึ้นเป็นพันเท่าจนน้ำแห้งเหือดหมด ทุกอย่างจะแผดเผาและตายลงอย่างรวดเร็ว ส่วนอีกซีกโลกก็จะเกิดเป็นขั้วหนาวติดลบเป็นพันๆเช่นกัน จนไม่มีสิ่งใดอาศัยอยู่ได้ โลกเราจะเปรียบเสมือนกึ่งเป็นกึ่งตายในทันที
2.ลมจะแรงขึ้นมากมหาศาล
อย่าลืมว่าโลกหมุนตัวเองและขับเคลื่อนไปได้ด้วยกระแสลมที่เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย หากโลกเราไม่เคลื่อนที่ไปตามลมที่หมุนเอาไว้และหยุดนิ่งซะก่อน เราจะถูกลมขับเคลื่อนนี้พัดพาฉีกทุกสิ่งทุกอย่างให้หายไปในพริบตา เนื่องจากกระแสลมที่จะทำให้โลกหมุนได้จะต้องมีความแรงและมากมหาศาล แต่ที่เราไม่ถูกพัดพาเกินไปนั่นเป็นเพราะแรงต้านและแรงโน้มถ่วงของโลกเป็นตัวกำบังเอาไว้อยู่
อย่าลืมว่าโลกหมุนตัวเองและขับเคลื่อนไปได้ด้วยกระแสลมที่เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย หากโลกเราไม่เคลื่อนที่ไปตามลมที่หมุนเอาไว้และหยุดนิ่งซะก่อน เราจะถูกลมขับเคลื่อนนี้พัดพาฉีกทุกสิ่งทุกอย่างให้หายไปในพริบตา เนื่องจากกระแสลมที่จะทำให้โลกหมุนได้จะต้องมีความแรงและมากมหาศาล แต่ที่เราไม่ถูกพัดพาเกินไปนั่นเป็นเพราะแรงต้านและแรงโน้มถ่วงของโลกเป็นตัวกำบังเอาไว้อยู่
![]() |
3.สภาพบรรยากาศจะถูกทำลายจนแรงโน้มถ่วงสูญเสียเป็นผลพวงต่อมาจากที่สภาพพื้นดินหรืออากาศแปรปรวนผิดปกติ เมื่อใดที่โลกเราหยุดหมุน บรรยากาศจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง และเมื่อมันสะสมมากเท่าเป็นทวีคูณ ชั้นบรรยากาศบนโลกก็จะค่อยๆสลายไป แรงโน้มถ่วงและพื้นดินก็จะทำปฏิกิริยาต่อกันทำให้โลกแตกสลายในเวลาต่อมา
4.สนามแม่เหล็กส่งผลกระทบ
ทำให้เกิดรังสีสุดโหดร้าย
หากโลกหยุดนิ่ง ไม่ใช่แค่สภาพอากาศที่แปรปรวนเท่านั้น แต่สนามแม่เหล็กก็จะแปรปรวนไปด้วย จนสุดท้ายก็พังทลายไปพร้อมกับโลก พร้อมปล่อยรังสีแกมมา หรือรังสีสุดโหด ออกมา สร้างความอันตรายและทำให้โลกกลายเป็นดาวมรณะไปนั่นเอง
หากโลกหยุดนิ่ง ไม่ใช่แค่สภาพอากาศที่แปรปรวนเท่านั้น แต่สนามแม่เหล็กก็จะแปรปรวนไปด้วย จนสุดท้ายก็พังทลายไปพร้อมกับโลก พร้อมปล่อยรังสีแกมมา หรือรังสีสุดโหด ออกมา สร้างความอันตรายและทำให้โลกกลายเป็นดาวมรณะไปนั่นเอง

