Custom Search

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

วันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

เปิดตำนาน กบฏนักมวย

✋เปิดตำนาน 'กบฏนักมวย' กลุ่มกบฏแดนมังกร ผู้หาญกล้าลุกฮือขึ้นต่อต้านอำนาจของชาวต่างชาติ
ย้อนกลับไปในปี 1899 ได้เกิดกลุ่มกบฏที่มีชื่อว่า “กบฏนักมวย” ในหลายพื้นที่ของประเทศจีน โดยกบฏนักมวยพากันปฏิเสธชาวต่างชาติที่เดินทางมาทำธุรกิจ ตั้งถิ่นฐาน หรือกระทั่งเผยแผ่ศาสนา เนื่องจากพวกเขามองว่าชาวต่างชาติกำลังดูดกลืนความเป็นจีนที่มีมาแต่ดั้งเดิม และอาจกำลังสร้างเงื่อนไขบางอย่างที่ชาวจีนจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบในอนาคต
ทั้งนี้ชนวนเหตุสำคัญที่ทำให้กบฏนักมวยต้องลุกขึ้นต่อต้านชาวต่างชาติ เป็นเพราะความขัดแย้งกับชาวต่างชาติที่มณฑลซานตง ซึ่งชาวต่างชาติที่นับถือศาสนาคริสต์ กระทำการก่อสร้างโบสถ์ในเขตพื้นที่ของวัดจีน เรื่องนี้สร้างความไม่พอใจให้กับชาวจีนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นเป็นอย่างมาก ชาวบ้านพยายามต่อต้านทุกวิถีทางแต่ก็ไม่สำเร็จ เนื่องจากชาวต่างชาติอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของตนมาตั้งแต่สมัยจักรพรรดิคังซีแล้ว และพวกเขามีสิทธิ์ในที่ดินผืนนี้ทุกประการ เมื่อความพยายามในการต่อต้านไม่ประสบความสำเร็จ ชาวบ้านจึงได้จับเหล่ามิชชันนารีเป็นตัวประกัน พร้อมทั้งเผาทำลายโบสถ์จนสิ้น
หลังจากสิ้นสุดเหตุการณ์นี้ชาวบ้านจากต่างเมือง เริ่มรวมตัวกันขับไล่ชาวต่างชาติมากยิ่งขึ้น อิทธิพลของกลุ่มกบฏนักมวยแผ่นขยายออกไปในหลายพื้นที่ของประเทศจีน มีการปราบปรามกบฏนักมวยอยู่บ่อยครั้ง แต่ด้วยจำนวนของกบฏนักมวยค่อนข้างมาก ทำให้ทางการจีนและกองกำลังนานานชาติไม่สามารถปราบปรามกบฏนักมวยได้หมด 
และดูเหมือนยิ่งปราบปรามเท่าไหร่จำนวนของกบฏนักมวย ก็มีแต่จะยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย ประกอบกับพระนางซูสีไทเฮาให้การสนับสนุนกบฏนักมวย จึงทำให้กบฏนักมวยมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นไปอีก ส่งผลให้เกิดการฆ่าสังหารชาวต่างชาติ เผาทำลายบ้านเรือน โบสถ์ และสถานที่ที่มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่ไม่เว้นวัน
โดยในเดือนมิถุนายน ปี 1900 ปัญหาได้บานปลายยิ่งขึ้น เมื่อกบฏนักมวยปะทะกับกองกำลังนานาชาติในกรุงปักกิ่ง และเมืองเทียนจิน ด้วยสถานการณ์ที่ค่อนข้างตึงเครียด ฝ่ายกองกำลังนานาชาติ ซึ่งได้แก่ สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา, เบลเยี่ยม, เนเธอร์แลนด์, ฝรั่งเศส, รัสเซีย และญี่ปุ่น

จึงได้นำกองกำลังอีกชุดไปปิดล้อมพระราชวังต้องห้าม ในกรุงปักกิ่ง เพื่อกดดันให้กบฏนักมวยยุติการโจมตี แต่ปัญหากับบานปลายยิ่งขึ้นไปอีกเนื่องจากกบฏนักมวย ซึ่งอยู่ในพระราชวังต้องห้าม ได้ทำการสังหาร Clemens von Ketteler บาทหลวงชาวเยอรมัน พร้อมกันนั้นพระนางซูสีไทเฮายังได้ประกาศสงครามกับชาวต่างชาติอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 21 มิถุนายน ปี 1900 อีกด้วย
อย่างไรก็ตามการประกาศสงครามในวันนั้นข้าหลวงในหัวเมืองต่างๆ กลับไม่เห็นด้วย พร้อมทั้งปฏิเสธการทำสงครามกับชาวต่างชาติ ทำให้ในเวลานั้นมีเพียงกบฏนักมวยเท่านั้นที่เป็นกำลังหลังในการทำสงครามกับชาวต่างชาติ โดยกบฏนักมวยได้ยึดเมืองเทียนจินเป็นฐานที่มั่นหลักในการทำสงคราม ซึ่งทางกองกำลังนานาชาติได้ใช้ความพยายามในการปราบปรามกบฏนักมวยถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเกิดขึ้นในวันที่ 26 มิถุนายน แต่ไม่สำเร็จ ก่อนที่การบุกปราบปรามครั้งที่ 2 จะประสบความสำเร็จในวันที่ 14 กรกฎาคม ปี 1900
แต่ถึงกระนั้นกบฏนักมวยก็ไม่ได้ถูกปราบปรามจนสิ้นเลยซะทีเดียว เพราะหลังจากนั้นยังคงมีการป่วนจากกลุ่มกบฏนักมวยอีกหลายต่อหลายครั้ง ก่อนที่อำนาจของกลุ่มกบฏนักมวยจะค่อยๆ หายไป เนื่องจากสมาชิกที่เหลือถูกปราบปราม และถูกจับกุมจนหมด

รายการบล็อกของฉัน