นักดาราศาสตร์เผย! หากโลกของเรามี ‘วงแหวน’ แบบดาวเสาร์ จะต้องเจอกับอะไรบ้าง? มาฟังเหตุผลของเขากัน
‘วงแหวนดาวเคราะห์’ (Planetary Ring) คือวงแหวนที่เกิดจากการรวมตัวของฝุ่นหรือวัตถุขนาดเล็กในอวกาศ มีรูปทรงคล้ายแผ่นจานแบนๆ ซึ่งมนุษย์ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ ต้องมองด้วยกล้องจุลทรรศน์เท่านั้น โดยวงแหวนจะโคจรไปรอบๆ ดาวเคราะห์ และดาวเคราะห์ที่มีวงแหวนขนาดใหญ่ที่สุดก็คือ ‘ดาวเสาร์’ ว่าแต่เคยสงสัยกันบ้างไหมว่า เหตุใดโลกของเราถึงไม่มีวงแหวนแบบดาวเสาร์ แล้วถ้าเกิดวันนึงโลกกลมๆ ใบนี้ดันมีวงแหวนแบบนั้นบ้าง จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือแตกต่างจากเดิมมากมั้ย!? ลองมาดูกันซิว่า ถ้าโลกมีวงแหวนจริงๆ ขึ้นมา มนุษยชาติแบบเราๆ จะต้องเจอกับอะไรบ้าง!
นอกจากนั้นการส่งดาวเทียม เช่น ดาวเทียมสื่อสารหรือดาวเทียมรายงานสภาพอากาศขึ้นสู่วงโคจรในห้วงอวกาศจะยากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณเลยทีเดียว เพราะเจ้าเศษหินเศษฝุ่นที่อยู่ในวงแหวนสามารถพุ่งชนดาวเทียมเหล่านี้ได้ทุกเมื่อ ทำให้ต้องส่งดาวเทียมขึ้นไปในวงโคจรที่สูงขึ้นกว่าแต่ก่อน พูดง่ายๆ มนุษย์ต้องคิดค้นระบบการขนส่งดาวเทียมแบบใหม่หมด เพื่อที่ดาวเทียมจะได้ขึ้นสู่วงโคจรแบบปลอดภัยหายห่วงซึ่งนั่นก็จะเป็นการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอย่างมาก เพราะกว่าที่ดาวเทียมจะขึ้นไปสู่วงโคจรที่ปลอดภัยได้ ต้องใช้ระยะเวลายาวนานมากกว่าปกติหลายเท่าเลยทีเดียว
แต่ถึงแม้จะมีการคิดค้นระบบขนส่งดาวเทียมแบบใหม่ได้สำเร็จ มนุษยชาติก็จะยังไม่สามารถใช้งานดาวเทียมแบบถ่ายภาพได้ เพราะดาวเทียมถ่ายภาพจะมีวงโคจรต่ำ (Low Earth Orbit) สามารถออกจากพื้นผิวโลกไปในระยะที่ไม่เกิน 2,000 กิโลเมตร
ซึ่งนั่นก็หมายความว่า หากส่งดาวเทียมถ่ายภาพขึ้นสู่วงโคจรล่ะก็ ดาวเทียมต้องไปทับซ้อนกับวงแหวนเป็นแน่ และมนุษย์ก็จะไม่สามารถใช้ประโยชน์จากดาวเทียมแบบถ่ายภาพได้อีกเลย
ยังมีในเรื่องของการเกิดปรากฏการณ์ฝนดาวตกหรือผีพุ่งใต้ที่จะมีให้เห็นกันทุกเมื่อเชื่อวัน อันเนื่องมาจากวัตถุที่หลุดออกมาจากวงแหวน นอกจากนั้นในบางภูมิภาคของโลกจะมีแสงสว่างจากแสงสะท้อนของวงแหวนปรากฏให้เห็นในยามค่ำคืน และไม่แน่ว่าวงแหวนอาจจะเป็นตัวดึงดูดสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวให้เขามาสู่โลกของเราได้ง่ายขึ้นก็เป็นได้